“ปรีดาโฮลดิ้ง” คิดใหญ่ปั้นบิ๊กโปรเจกต์ 2.5 พันล้าน เตรียมที่ดินประดิพัทธ์ 4 ไร่ผุด “คอนโดฯ-ออฟฟิศ”

“ปรีดาโฮลดิ้ง” คิดใหญ่ปั้นบิ๊กโปรเจกต์ 2.5 พันล้าน เตรียมที่ดินประดิพัทธ์ 4 ไร่ผุด “คอนโดฯ-ออฟฟิศ”

“ปรีดาโฮลดิ้ง” มั่นใจอสังหาฯ เริ่มกลับมา โควิดคลี่คลาย สายการบินเปิดให้บริการ พร้อมลุยพัฒนาเฟสสุดท้ายเฟส 3 ในโครงการกรีเน่ คอนโด ดอนเมือง-สรงประภา จ่อไม่เกินปี 66 ปิดโครงการ มูลค่ารวมสูงถึง 2,864 ล้านบาท จ่องัดที่ดินศักยภาพสูงบนแยกประดิพันธ์ รับสถานีกลางบางซื่อ เผยรูปแบบมิกซ์ยูส คอนโดฯ-ออฟฟิศ-ค้าปลีก รวมมูลค่า 2,500 ล้านบาท

นายปิติพัฒน์ ปรีดานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปรีดาโฮลดิ้ง จำกัด ผู้พัฒนาธุรกิจโครงการคอนโดมิเนียมแบรนด์ กรีเน่ คอนโด (GRENE CONDO) เปิดเผยปัจจัยที่มีผลต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ในขณะนี้ว่า อัตราดอกเบี้ยของประเทศไทยมีแนวโน้มจะปรับขึ้นหลังจากอยู่ในระดับต่ำมานาน เนื่องจากสหรัฐฯ พยายามแก้ปัญหาเรื่องอัตราเงินเฟ้อภายในประเทศที่สูงขึ้น ผ่านกลไกการปรับอัตราดอกเบี้ย แต่โชคดีรัฐบาลไทยยังให้ความสำคัญกับกำลังซื้อ ไม่รีบเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็ว ประกอบกับธนาคารของรัฐ เช่น ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารออมสิน ดำเนินนโยบายตรึงอัตราดอกเบี้ยเพื่อช่วยเหลือลูกค้า

ในส่วนของกลยุทธ์ในการขยายพอร์ตธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทปรีดาฯ นั้น บริษัทฯ เน้นพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อรองรับเรียลดีมานด์ พร้อมกับการปรับภาพลักษณ์องค์กรใหม่ (Rebranding) สร้างการรับรู้ในกลุ่มลูกค้าเว็บหวยออนไลน์ ถูกกฎหมายที่กว้างขึ้น ซึ่งในปัจจุบัน โครงการกรีเน่ คอนโด ดอนเมือง-สรงประภา เป็นโครงการใหญ่บนเนื้อที่กว่า 17 ไร่ มีมูลค่าการขายกว่า 2,864.62 ล้านบาท จำนวน 1,450 ยูนิต

โดยในเฟสที่ 1 ปิดการขายไปก่อนหน้าและเฟสที่ 2 เหลือยูนิตขายไม่มาก คาดจะปิดโครงการได้เร็วๆ นี้ และล่าสุด ได้พัฒนาคอนโดฯ พร้อมอยู่เฟส 3 ในรูปแบบ The Santorini พัฒนาบนพื้นที่ 4 ไร่ ซึ่งอยู่ด้านหน้าของโครงการ ในรูปแบบคอนโดฯ โลว์ไรส์ จำนวน 2 อาคารส สูง 8 ชั้น มีทั้งหมด 344 ยูนิต มูลค่าประมาณ 832.35 ล้านบาท

“เราเป็นบริษัทอสังหาฯ ตัวเล็กๆ แต่เราทำโครงการมานานประมาณ 60 ปี มีการวิเคราะห์และศึกษากลุ่มลูกค้าอย่างละเอียด พัฒนาทีละเฟส ซึ่งในสถานการณ์ที่เกิดโควิดก่อนหน้านี้ คอนโดเฟส 2 เราก่อสร้างเสร็จพอดี แม้ลูกค้าสายการบินจะชะลอตัวในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แต่เรามั่นใจทำเลที่ตั้งโครงการที่มีศักยภาพสูง ไม่ไกลจากสนามบินดอนเมือง และฐานทัพอากาศ รวมถึงอยู่ในแนวรถไฟฟ้า จึงตัดสินใจพัฒนาในเฟสที่ 3 ในราคาต้นทุนเดิม แม้ราคาวัสดุก่อสร้างได้ปรับขึ้นไปแล้วร้อยละ 10-40 และเป็นจังหวะที่โควิดจบ คลี่คลายแล้ว สายการบินต่าง กลับมาให้บริการเป็นปกติ ทำให้ทางโครงการมีสินค้ารองรับความต้องการลูกค้าได้เหมาะกับการอยู่อาศัยและลงทุน ที่ผ่านมาใน 2 เฟส ผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 6-7”

 

สำหรับทิศทางพัฒนาโครงการใหม่ในปี 2566 นั้น นายปิติพัฒน์ กล่าวว่า บริษัทได้ซื้อที่ดินเนื้อที่ประมาณ 4 ไร่ บนถนนประดิพันธ์เมื่อ 4-5 ปีที่ผ่านมา โดยจะพัฒนาโครงการในรูปแบบผสมผสาน (มิกซ์ยูส) ระหว่างคอนโดฯ จำนวน 600 ยูนิต พร้อมด้วยพื้นที่อาคารสำนักงานให้เช่า 4,000 ตารางเมตร (ตร.ม.) และบางส่วนจะมีพื้นที่ค้าปลีก ทั้งโครงการจะมีมูลค่าสูงไม่ต่ำกว่า 2,500 ล้านบาท ตัวแบบโครงการได้ผ่านการอนุมัติในเรื่องรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) แล้ว คาดว่าจะเริ่มพัฒนาโครงการได้ปลายปี 2566 หรือต้นปี 2567 เนื่องจากบริษัทมั่นใจจะปิดการขายในเฟสที่ 3 ของโครงการกรีเน่ คอนโด ดอนเมือง-สรงประภา ได้ตามแผน

“ในอนาคตการบริการรถไฟในหัวลำโพงจะย้ายไปสถานีกลางบางซื่อ ความเจริญจะเกิดขึ้นรอบๆ สถานีกลางบางซื่อ โดยเฉพาะ 4 แยกลาดพร้าวจะมีโครงการคอนโดฯ เกิดขึ้นมาก”

ขณะเดียวกัน บริษัทอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมในการเข้าไประดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ อยู่ระหว่างปรับปรุงเรื่องระบบบัญชีและการเงินให้พร้อมตามแผนในอีก 3-5 ปีข้างหน้า ทำให้บริษ้ทสามารถระดมทุนเพื่อจัดหาซื้อที่ดินมาพัฒนาโครงการได้