ฮือฮา!ยายวัย85ป่วยติดเตียง3ปี ฉีดแอสตราฯเข็มแรก มีแรง-ลุกเดินได้

ฮือฮา!ยายวัย85ป่วยติดเตียง3ปี ฉีดแอสตราฯเข็มแรก มีแรง-ลุกเดินได้

ฮือฮา คุณยายวัย 85 ปี เมืองคอน โรครุม ป่วยติดเตียงนาน 3 ปี ฉีดแอสตราเซเนกา เข็มแรก มีแรง-ลุกเดินได้ ชี้วัคซีนอาจกระตุ้นเซลล์บวกภาวะจิตใจ เชื่อส่งผลประชาชนที่วิตก-แคลงใจ หันมาฉีดมากขึ้น

เมื่อวันที่ 28 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 27 พ.ย. ที่ผ่านมา นายวีระพรรณ สุขะวัลลิ นายอำเภอท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วย นพ.กิตติ รัตนสมบัติ ผอ.โรงพยาบาลท่าศาลา ทีมสาธารณสุข และเพื่อนบ้าน เข้าเยี่ยมและแสดงความยินดีกับ นางล้วน ชุมทอง หรือ “ยายล้วน” อายุ 85 ปี ชาว อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ที่ก่อนหน้านี้เป็นผู้ป่วยติดเตียงมานานเกือบ 3 ปี ด้วยโรคประจำตัวหลายอย่างทั้ง เบาหวาน ความดัน ไขมันสูง และอื่นๆ แต่ภายหลังรับการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา เข็มแรกแล้วลุกเดินได้ ซึ่งเมื่อเดินทางไปถึง คุณยายล้วน ได้เดินออกมาต้อนรับ พร้อมเล่าอาการให้ฟังอย่างมีความสุข และลุกขึ้นเดินโชว์ นายอำเภอ ผอ.รพ. และคณะ รวมถึงสื่อมวลชน อีกด้วย

โดย นพ.กิตติ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันพุธที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา ทีม รพ.สต.กลาย มาฉีดวัคซีนโควิด-19 แอสตราเซเนกาเข็มแรก ให้คุณยายล้วน ตอนเที่ยงหลังจากนั้น คุณยายล้วน นอนพักผ่อนบนเตียงผู้ป่วยในบ้านตามปกติ กระทั่งเช้าวันพฤหัสบดี ที่ 25 พ.ย. คุณยายล้วน เรียกลูกชาย และบุคคลในบ้าน มาพร้อมบอกว่ารู้สึกอาการดีขึ้นเหมือนว่าแขนขามีเรียวแรงขยับได้ จึงขอให้ ลูกหลาน ช่วยจับลุกจากเตียงทดลองเดินไปมา สามารถเดินได้อย่างกระฉับกระเฉง อาการป่วย ปวดเมื่อยตามแขนขาที่ล้ามาเกือบ 3 ปี หายเป็นปลิดทิ้ง เบื้องต้นตอนแรกที่ทราบข่าวก็ยังไม่เชื่อ เพราะดูในประวัติผู้ป่วยมีหลายโรค จึงนำทีมเดินทางมาตรวจสอบด้วยตัวเอง เมื่อได้พบคุณยายล้วน และตรวจดูร่างกาย จึงพบว่าเดินได้จริงเหมือนผู้สูงวัยทั่วไป

“ทางการแพทย์เบื้องต้นสันนิษฐานว่าการรับวัคซีนเป็นการกระตุ้นเซลล์ในร่างกาย อวัยวะต่าง ๆ ตลอดจนหัวใจทำให้มีแรงขึ้น ประกอบกับภาวะทางด้านจิตใจ เมื่อลูกหลานที่ทราบข่าวมาเยี่ยม เป็นแรงขับเคลื่อน ทำให้มีกำลังใจมากขึ้นเป็น 2 แรงบวกกระตุ้นให้ร่างกายแข็งแรงมากขึ้นทำให้ร่างกายที่เป็นผู้ป่วยติดเตียงเกือบ 3 ปี หายเป็นปกติในที่สุด นับเป็นตัวอย่างที่ดีที่ทำให้การรับรู้ข้อมูลข่าวสารจากโซเชียลว่าการรับการฉีดวัคซีนแล้วจะมีผลลบต่อร่างกาย หรือมีอาการแทรกซ้อน ซึ่งการที่มีข่าวลักษณะแบบนี้ ส่งผลให้ประชาชนที่เคลือบแคลงสงสัย วิตกกังวลเรื่องของการฉีดวัคซีน ทำให้ตัวเลขการฉีดวัคซีนน้อย ต่อไปผู้ที่กลัว กังวลในการฉีดวัคซีน จะได้เริ่มหันมามองและมั่นใจการฉีดวัคซีน และมีแรงจูงใจฉีดวัคซีนกันมากขึ้น อย่างแน่นอน” นพ.กิตติ กล่าวและเปิดเผยอีกว่า โอกาสนี้จึงชวนเชิญ พี่น้องชาวท่าศาลาหรือประชาชนทั่วไปเข้ารับวัคซีน

นายวีระพรรณ กล่าวว่า อำเภอท่าศาลา ทำทุกวิถีทาง ทั้งฝ่ายปกครอง โรงพยาบาล และทีมสาธารณสุข ตลอดถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รณรงค์ทุกช่องทาง จูงใจให้ประชาชนมาฉีดวัคซีนให้มากที่สุด มีการจูงใจด้วยการจับหางบัตร ชิงรางวัลลูกวัว แพะ ตลอดถึงชิงรางวัลสร้อยทองคำ ประชาสัมพันธ์เชิงรุก เดินเคาะประตูถึงบ้านให้ทุกคนมาฉีดวัคซีน เดินไปตาม หมู่บ้านเป้าหมาย ที่อสม.มีข้อมูลอยู่ในมือว่าคนไหนยังไม่ฉีดวัคซีนบ้าง จนถึงขณะนี้การฉีดวัคซีนโควิดของอำเภอท่าศาลา อยู่ในระดับต้นๆของจังหวัด อยู่ในจุดที่น่าพอใจ สำหรับกรณีคุณยายล้วนสามารถเดินได้หลังฉีดวัคซีน เชื่อว่าจะเป็นแรงจูงใจทำให้ประชาชนมารับวัคซีนกันมากขึ้น.